after-match-review-liverpool-wolves-1-0

เจาะ 3 ประเด็นหลังเกม ลิเวอร์พูล เชือด หมาป่า 1-0

Mar 23, 2021 by

เจาะ 3 ประเด็น หลังเกมส์ ! ลิเวอร์พูล คืนฟอร์มเก่งหลังบุกเชือด “หมาป่า” 1-0 หงด์แดงกลับมาแล้ว! ลิเวอร์พูล คืนฟอร์มแกร่งหลังบุกเชือด “หมาป่า” 1-0 จากประตูชัยของ ดิโอโก้ โชต้า ซัดทีมเก่าพา “หงส์แดง” เก็บเพิ่มเป็น 46 คะแนนขยับขึ้นอันดับ 6 มีแต้มเท่า เอฟเวอร์ ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

แมตช์นี้ “หงส์แดง” ถึงจะเล่นไม่ได้เด่นอะไรมาก ผิดหลับกับเจ้าบ้านที่มีโอกาสทำเกมรุกกดดันแชมป์เก่าได้ตลอด แต่จังหวะสุดท้ายไม่เด็ดขาด ขณะที่ ลิเวอร์พูล มีโอกาสงามหยดในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก และ ดีโอโก้ โชต้า จัดการส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย

สำหรับตอนนี้ชัยชนะของ “เดอะ เร้ดส์” ทำให้พวกเขากลับมามีความหวังอีกครั้ง หลังจากต้องผิดหวังกับฟอร์มในลีกมาหลายแมตช์นับตั้งแต่ปีนี้ และในแมตช์ต่อไปคือการเยือน อาร์เซน่อล ถือเป็นงานสุดหินที่พวกเขาห้ามพลาดเด็ดขาด

1.”น้องแนท-หนูคาบัค” คู่เซนเตอร์แบ็กเล่นได้ดี

จากการจับคู่ของ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ กับ โอซาน คาบัค ทำผลงานได้ดีเยี่ยมในเกมนี้ โดยที่ทั้งสองคนแสดงให้เห็นถึงการเล่นร่วมกันได้ดี มีความเข้าใจกันมากขึ้น และมีข้อผิดพลาดไม่เยอะมากนัก คาบัค เริ่มปรับตัวกับการเล่นในเกมลีกเมืองผู้ดีได้มากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับแมตช์นี้เขาอ่านเกมได้ดีเยี่ยม และสามารถรับมือ อดาม่า ตราโอเร่ ปีกนักกล้าม ได้อย่างสุดยอด แม้อาจจะเป็นรองเรื่องความแข็งแกร่งและความเร็ว แต่ดาวเตะชาวตุรกีมีดีตรงที่การอ่านเกม นอกจากนี้ คาบัค ยังมีจุดเด่นในจังหวะการป้องกันลูกกลางอากาศ และบางครั้งก็ขึ้นไปช่วยเกมรุกกดดันเมื่อทีมได้ลูกฟรีคิก ในช่วงท้ายเกมส์ นักเตะสามารถวิ่งดักทาง เนโต้ ในขณะที่กำลังจะหลุดเดี่ยว ฉะนั้นต้องบอกเลยว่าเกมนี้เขาเล่นได้น่าประทับใจจริงๆ ขณะที่ แนท ฟิลลิปส์ ถือว่าพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาในระดับหนึ่ง โดยเจ้าตัวอ่านเกมได้ดี มีหลายครั้งที่สามารถทำลายจังหวะเกมรุกของ วูล์ฟส์ โดยเฉพาะจังหวะที่โหม่งเคลียร์บอลในช่วงกลางครึ่งแรก แต่จุดด้อยของเขาคงหนีไม่พ้นการเล่นเกมรุก ที่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมเท่าไร

2. โชต้า สร้างความแตกต่างให้ลิเวอร์พูล

หลายนัดที่หงส์แดงแพ้ติดต่อกันมา 6 นัดในบ้าน และแนวรุกของทีมกำลังประสบกับวิกฤติการยิงประตู แน่นอนว่า คล็อปป์ พยายามที่จะหาทางแก้ไขปัญหานี้ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก จนกระทั่ง ดีโอโก้ โชต้า หายเจ็บกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง แม้ว่านักเตะจะกลับมาช่วยทีมได้ก็ตาม แต่ยังคงต้องเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมา เพราะ โชต้า สามารถขยับเข้าไปเป็นหน้าเป้าก็ได้ หรือถ่างออกไปเล่นทางริมเส้นได้ด้วย ซาลาห์ เปิดบอลให้ ดิโอโก้ โชต้า ตวัดตามน้ำบอลเรียดติดปลายมือ รุย ปาตริซิโอ ปัดไม่พ้นเบียดเสาแรกเข้าไป

3. อลีสซง ความเชื่อมั่นที่เริ่มดีขึ้น

ช่วงที่ผ่านมา อลีสซง เบ็คเกอร์ โกลชาวบราซิเลียน ต้องเจอกับปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่น และเรื่องส่วนตัว ทำให้ผลงานของเขาตกลงไปเยอะมาก และแน่นอนว่าสิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจของเพื่อนร่วมทีม เนื่องจากไม่มั่นใจว่า ตั้งแต่ที่โชว์ของด้วยการเตะบอลพลาดสองครั้งและเสีย 2 ประตูในเกมพ่ายยับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามด้วยการสกัดบอลชนกับ คาบัค ในแมตช์พ่าย เลสเตอร์ ซิตี้ แถมยังต้องมาเจอข่าวร้ายคุณพ่อเสียไป แต่ในแมตช์นี้เขายังคงขาดความนิ่งและการเล่นที่แน่นอน โดยในช่วงต้นเกมเจ้าตัวออกมารับบอลง่ายๆ หลุดมือ และชนกับ เนลซอน เซเมโด้ แต่กรรมการมองว่าไม่ฟาวล์ทำให้รอดจุดโทษไปแบบหวุดหวิด ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะมีจังหวะในการออกมาตัดบอลกลางอากาศซึ่งต้องบอกเลยว่า อลีสซง สามารถกระโดดคว้าบอลเข้าซองได้ง่ายๆ แต่เจ้าตัวเลือกที่จะชกบอล แต่ชกไม่ดีบอลไปเข้าทางเกมรุก วูล์ฟส์ แต่เดชะบุญที่คู่แข่งขาดความเฉียบคมก็เลยรอดตัวไป ถึงอย่างนั้น นายด่านเลือดบราซิเลียน ก็มีจังหวะป้องกันที่ยอดเยี่ยม 2 ครั้งเช่นกันในครึ่งแรก ส่วนในครึ่งหลัง อลีสซง เริ่มเล่นได้นิ่งขึ้น และยืนตำแหน่งดี สามารถป้องกันจังหวะยิงไกลของคู่แข่งได้หมด



เรียบเรียงโดย

น้ำหวาน